บทความจากใจท่านนายกสมาคมฯ.
ตัวอย่างเปรียบเทียบที่เราเคยได้ยินบ่อย ๆ คือ สอนให้คนตกปลา
ดีกว่าซื้อปลาให้เขากิน นี่พูดถึงในความหมายให้คนมีความรู้ ความเข้าใจ
ที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับการดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท
เราพยายามพูดถึงประโยชน์ในการเป็นสมาชิกสมาคมทุกที่ทุกแห่งด้วยความห่วงใยใน
สถานภาพของอาชีพไกด์ แต่สิ่งที่ได้รับคำตอบกลับมามีอะไรบ้าง
หลายท่านคงทราบกันดี ไกด์กว่า 50,000 กว่าคนที่จดทะเบียน เอาแค่ประมาณ 50%
เพียง 25,000 คน เป็นสมาชิกสมาคม 2,000 กว่าคน
หากเราต้องรับผิดชอบคนเป็นไกด์ในส่วน 25,000 คน เมื่อเปรียบเทียบกับสมาชิก
2,000 กว่าคน หากสภาพเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ
กรรมการเพียงหยิบมือจะรับได้อีกกี่มากน้อย
ผมเข้าใจความรู้สึกและความหวังดีของทุกท่าน
แต่ผมคิดว่าต้องคำนึงถือหลักการที่ต้องไม่กระทบต่อบทบาทความรับผิดชอบตามข้อ
บังค้บสมาคม
ผมเคยพูดเสมอว่าการช่วยเหลือพวกเราชาวไกด์คือช่วยกันรณรงค์ให้มาเป็นสมาชิก
สมาคม และสหกรณ์ รวมทั้งกองทุนฌาปนกิจฯ
นั่นคือการสร้างภูมิคุ้มกันและการแนะนำวิธีการตกปลาให้
ซึ่งมีคุณอนันต์ต่อสถาพภาพอนาคตของมัคคุเทศก์เป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งไกด์อาวุโสยิ่งต้องตระหนักต่อความเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับไกด์รุ่นหลัง ๆ
ต้องคิดถึงความสามัคคีและความเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่จะสะท้อนเป็นประโยชน์
ต่อตนเองและเพื่อนร่วมอาชีพเป็นส่วนรวม one for all, all for one หรือ คน ๆ
หนึ่งทำเพื่อส่วนรวม ส่วนรวมจะย้อนกลับสู่ส่วนตน
อย่าคาดหวังประโยชน์ในการทำเพื่อสังคม แต่ที่สุดสังคมไม่ทอดทิ้ง
จะกลับมาดูแลเราอย่างแน่นอน วันนี้เรายังไม่เป็นสภามัคคุเทศก์
ที่บังคับให้ทุกคนเป็นสมาชิกไม่ได้ เมื่อใดที่เราเป็นสภามัคคุเทศก์
เรื่องความช่วยเหลือต่าง ๆ ก็ไม่เป็นปัญหาว่าใครเป็นสมาชิกหรือไม่
เพราะทุกคนมาอยู่ภายใต้ร่มหลังคาเดียวกัน ดังนั้น
หากจะคิดช่วยเพื่อนร่วมอาชีพกันจริง ๆ ช่วยกันรณรงค์ให้คนในชมรมต่างๆ
มาเป็นสมาชิกสมาคม และสหกรณ์ ฯ ดีกว่าครับ เพราะนั่นคือ
การให้เพื่อนเรามีภูมิคุ้มกันที่ยั่งยืน และหรือมีปลากินตลอด
โดยไม่ต้องรอว่าใครจะเอาปลามาให้ เพราะรู้วิธีตกปลาแล้ว
ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยแสดงน้ำใจต่อเพื่อนในอาชีพ
และสิ่งที่ทำอยู่ผมก็ไม่คัดค้าน แต่เพื่อทราบว่าผมคิดอะไร
เพื่อความเข้าใจอันดีต่อเพื่อน ๆ คณะกรรมการ
เพราะพวกเราก็เพิ่งประชุมเปลี่ยนระเบียบสวัสดิการแล้วด้วย
และในฐานะผู้นำองค์กรไม่อยากจะแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ที่สร้างความสับสนให้
กรรมการอีกหลาย ๆ ท่าน
ในบรรทัดฐานที่ต้องคำนึงถึงมาตรฐานที่ต้องปฏิบัติในแนวเดียวกันต่อ
มัคคุเทศก์ทุกคนทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก แต่ชมรม
แต่ละชมรมน่าจะแสดงออกได้ดีกว่า
ส่วนสมาคมอยากให้เป็นในลักษณะช่วยรณรงค์เป็นสมาชิกดีกว่าครับ
สมาคมตั้งมาเกือบ 40 ปีแล้ว ทำอะไรมาให้เยอะแยะ ยังต้องแสดงน้ำใจอีกกี่ปี
ถึงจะยอมมาเป็นสมาชิกครับ
เราจะปล่อยให้เกิดการสูญเสียก่อนแล้วให้แสดงน้ำใจเพื่อให้มาเป็นสมาชิกหรือ
แล้วอย่างนี้เราต้องรอเพื่อนไกด์ที่ประสบชะตากรรมแล้วไม่ได้เป็นสมาชิกอีก
กี่คนจึงจะได้ใจกันมาเองทุกคน อีกกี่ปี?
ผมเสียใจที่ไม่อาจเรียกร้องให้ไกด์ทุกคนมาเป็นสมาชิกได้อย่างมีจิตสำนึก
และได้มีโอกาสช่วยเหลือเขาได้เมื่อประสบปัญหา
เพราะผมและเพื่อนกรรมการชุดนี้คงไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าเพื่อรอช่วยเหลือคนไม่
ได้เป็นสมาชิก
แต่สมาคมและสภามัคคุเทศก์ที่หากเกิดขึ้นได้ต่างหากที่จะช่วยเขาเหล่านี้และ
กับมัคคุเทศก์ทุก ๆ คน เราได้นำอาหารมาให้ทุกท่านแล้ว (สมาคม
พร้อมสวัสดิการบางส่วน, สหกรณ์ฯ เงินออมและเงินกู้, กองทุนฌาปนกิจ ฯ
เพื่อความมั่นคงในชีวิตของครอบครัว และอนาคตสภามัคคุเทศก์)
โปรดช่วยกันรณรงค์ให้เขาทั้งหลายมาตักทานกันเองบ้างเถอะครับ
...จากใจจริงของกระผม......วิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ ...
วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557
วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557
เรื่องดีดีที่ต้องแบ่งปันกัน
วันนี้ทีม พีอาร์ มีเรื่องมาแบ่งปัน เรื่องจริงไม่อิงนิยาย
ใครไปเที่ยวทางรถไฟ...มาอ่านตรงนี้สักนิด
ประสพการณ์ตรงจากการบอกเล่าของไกด์ภาษาเยอรมัน ประสบการณ์จริง
เป็นอุทาหรณ์ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 57 คุณเพชรดา ศรชัยไพศาล
ไกด์ภาษาเยอรมัน ทำทัวร์เส้นทางรถไฟสายมรณะ ขณะที่
นั่งรถไฟจากสถานีน้ำตกเพื่อมาสถานีถ้ำกระแส นั่งอยู่โบกี้ท้ายสุด
ลูกทัวร์ในโบกี้นี้ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวฮอลแลนด์ ลูกทัวร์ของเธอ
เป็นครอบครัวชาวสวิส พ่อ แม่และลูกทั้ง3 ลูกชายคน คนโตอายุ18 ปี
คนรองอายุ 16ปี ลูกสาวคนเล็ก14ปี รถไฟออกจากสถานีน้ำตก เวลา 15.30น.
ขณะรถออกจากสถานีได้ประมาณ15นาที
เป็นช่วงที่ลูกทัวร์ทุกรุ่นอายุตื่นเต้นสนุกสนานกับการถ่ายรูป
ถัดจากเบาะที่เธอนั่ง มีครอบครัวชาวดัชนั่งอยู่ สามี ภรรยา และ ลูกอีก3คน
สักครู่สามีชาวดัชออกไปยืนอยู่ช่วงต่อโบกี้
รถไฟออกจากสถานีน้ำตก ช่วงนั้นทางลาดลงเขา
ประกอบกับช่วงรถต่อของรางที่ไม่ชิดสนิดกัน จึงเกิดการกระชากฉึกฉักๆ
..สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น.... เขาได้ตกรถไฟ.....
ความเร็วของรถและการกระชากของรถไฟ ร่างของเขาถูกดูดเข้าไปในรางรถไฟ
ช่วงเวลานั้นภรรยา กรีดร้องสุดชีวิต ตา
มด้วยเสียงของผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งโบกี้ร้องเพื่อให้เสียดังไปถึงการได้ยิน
ของคนขับเพื่อให้รถไฟหยุด ...
ได้ผล...รถไฟหยุด... เพื่อนของผู้เสียชีวิตลงวิ่งกรูไปดู เสียงกรีดร้องของครอบครัวเพื่อนร่วมคณะดังสนั่นอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับเสียงร้องไห้ ช๊อคตกใจของคนร่วมโบกี้ หนึ่งในนั้นคือไกด์ท่านนี้ด้วย เธอหันมาที่ลูกทัวร์ของเธอ คุณพ่อมาร์ติน ซึ่งนั่งติดกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เห็นเหตุการณ์ประกอบกับความอึกทึกของการเต้นของหัวใจของหลายๆคน คุณพ่อมาร์ตินช๊อค..ตาค้างเห็นแต่ตาขาว..หัวใจหยุดเต้น เสียงลูกๆ "papa.." เธอกระโดดไปหาเขาทันที พร้อมภรรยาและลูกของเขา เทน้ำราดศรีษะ กระตุกเส้นผม ตบหน้า "มาร์ตินตื่นๆ"เธอตะโกนเรียกสุดชีวิต พร้อมทั้ง ปลดกระดุม รูดซิบกางกาง แคทธารีนา ลูกสาวคนเล็กช๊อค ตามด้วยลูกชายอีกสอง เธอกอดและตบไหล่แม่"mama..เธอห้ามร้องไห้ เธอและฉันเราต้องช่วยกัน"ปล่อยแม่ดูพ่อ ครอบครัวคนไทยนั่งข้างๆกันตกใจลุกเดิน เธอขอให้ช่วยด้วยอย่าเดินจากไปช่วยกันกอดลูกทัวร์เธอก่อน คุณตาคุณยายและครอบครัวนี้มาช่วยด้วยหัวใจโอบกอดลูกนกทั้งสามที่สั่น..
คุณพ่อหยุดหายใจไปหนึ่งนาทีก็ฟื้น..ช่วงที่เราโอบกอดแคทธารีนา ก็ตะโกนบอกคนไทยให้ช่วยเรียกไกด์มาโบกี้สุดท้าย..มาช่วยกัน น้องอิสระไกด์ฝรั่งเศส พี่พงษ์ไกด์เยอรมัน และน้องผู้หญิงไกด์อังกฤษ เราช่วยกันนวดปลอบโยนพร้อมโอบกอด..อาการดีขึ้น..แต่ทั้ง 4 คนอาการไม่ดี รถมูลนิธิมาถึงพอดี เธอบอกร้อยเวรที่พึ่งมาถึงขอนายทหาร4นายมาช่วยพยุงลูกทัวร์เพื่อเดินไปขึ้น รถ นายแรกเดินเพื่อให้เร็ว เธอมองไปพอดีตะโกนทันที(คุณทหารคนแรกหยุด..เธอช๊อคเพราะร่างนั้น เลี้ยวขวาใช้บูทย่ำหนามใช้มีดตัดทาง ให้รถมูลนิธิหาทางเข้ามา)ถึงรถ..รถมูลนิธิ..ขนขึ้นทั้งหมด 5+1+2 เสียงหวอดขอทาง...เป็นเสียงเร้าและกระตุ้นการจากของชีวิตมาก 15 นาทีถึงโรงพยาบาลโทรโยค เข้าห้องฉุกเฉิน..ทุกอย่างทุกคนปกติ..อาเล็กซานเดอร์ลูกชายคนกลางตกใจคลั่ง เล็กน้อยใช้กำปั้นชกเสา สักพักมือบวมตรวจทำแผลจัดยา คุณหมอกลับจากการชันสูตรศพ ..มาพร้อมกับการสรุป ศพ..ขาด3จุด คือ คอ/ท้อง/ขา..พยาบาลถามและอุทานออกมาว่า "จะสิบศพแล้วนะและศพเมื่อวานคือศพที่10ในรอบปีนี้".(ตรงนี้เป็นบทสนทนาของ พยาบาลนะคะ ผู้เล่า ไม่ได้เห็นข้อเท็จจริงในเรื่องของจำนวนเอง)
90นาทีอยู่โรงพยาบาล.เข้าโรงแรม20.00น.
โชคดีของลูกทัวร์ที่ไกด์มีสติดีมาก..ขอบคุณคุณเพชรดาที่แบ่งปันเรื่องราว..เห็นว่าน่าสนใจ จึงนำมาแบ่งปันกันอ่าน
ได้ผล...รถไฟหยุด... เพื่อนของผู้เสียชีวิตลงวิ่งกรูไปดู เสียงกรีดร้องของครอบครัวเพื่อนร่วมคณะดังสนั่นอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับเสียงร้องไห้ ช๊อคตกใจของคนร่วมโบกี้ หนึ่งในนั้นคือไกด์ท่านนี้ด้วย เธอหันมาที่ลูกทัวร์ของเธอ คุณพ่อมาร์ติน ซึ่งนั่งติดกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เห็นเหตุการณ์ประกอบกับความอึกทึกของการเต้นของหัวใจของหลายๆคน คุณพ่อมาร์ตินช๊อค..ตาค้างเห็นแต่ตาขาว..หัวใจหยุดเต้น เสียงลูกๆ "papa.." เธอกระโดดไปหาเขาทันที พร้อมภรรยาและลูกของเขา เทน้ำราดศรีษะ กระตุกเส้นผม ตบหน้า "มาร์ตินตื่นๆ"เธอตะโกนเรียกสุดชีวิต พร้อมทั้ง ปลดกระดุม รูดซิบกางกาง แคทธารีนา ลูกสาวคนเล็กช๊อค ตามด้วยลูกชายอีกสอง เธอกอดและตบไหล่แม่"mama..เธอห้ามร้องไห้ เธอและฉันเราต้องช่วยกัน"ปล่อยแม่ดูพ่อ ครอบครัวคนไทยนั่งข้างๆกันตกใจลุกเดิน เธอขอให้ช่วยด้วยอย่าเดินจากไปช่วยกันกอดลูกทัวร์เธอก่อน คุณตาคุณยายและครอบครัวนี้มาช่วยด้วยหัวใจโอบกอดลูกนกทั้งสามที่สั่น..
คุณพ่อหยุดหายใจไปหนึ่งนาทีก็ฟื้น..ช่วงที่เราโอบกอดแคทธารีนา ก็ตะโกนบอกคนไทยให้ช่วยเรียกไกด์มาโบกี้สุดท้าย..มาช่วยกัน น้องอิสระไกด์ฝรั่งเศส พี่พงษ์ไกด์เยอรมัน และน้องผู้หญิงไกด์อังกฤษ เราช่วยกันนวดปลอบโยนพร้อมโอบกอด..อาการดีขึ้น..แต่ทั้ง 4 คนอาการไม่ดี รถมูลนิธิมาถึงพอดี เธอบอกร้อยเวรที่พึ่งมาถึงขอนายทหาร4นายมาช่วยพยุงลูกทัวร์เพื่อเดินไปขึ้น รถ นายแรกเดินเพื่อให้เร็ว เธอมองไปพอดีตะโกนทันที(คุณทหารคนแรกหยุด..เธอช๊อคเพราะร่างนั้น เลี้ยวขวาใช้บูทย่ำหนามใช้มีดตัดทาง ให้รถมูลนิธิหาทางเข้ามา)ถึงรถ..รถมูลนิธิ..ขนขึ้นทั้งหมด 5+1+2 เสียงหวอดขอทาง...เป็นเสียงเร้าและกระตุ้นการจากของชีวิตมาก 15 นาทีถึงโรงพยาบาลโทรโยค เข้าห้องฉุกเฉิน..ทุกอย่างทุกคนปกติ..อาเล็กซานเดอร์ลูกชายคนกลางตกใจคลั่ง เล็กน้อยใช้กำปั้นชกเสา สักพักมือบวมตรวจทำแผลจัดยา คุณหมอกลับจากการชันสูตรศพ ..มาพร้อมกับการสรุป ศพ..ขาด3จุด คือ คอ/ท้อง/ขา..พยาบาลถามและอุทานออกมาว่า "จะสิบศพแล้วนะและศพเมื่อวานคือศพที่10ในรอบปีนี้".(ตรงนี้เป็นบทสนทนาของ พยาบาลนะคะ ผู้เล่า ไม่ได้เห็นข้อเท็จจริงในเรื่องของจำนวนเอง)
90นาทีอยู่โรงพยาบาล.เข้าโรงแรม20.00น.
โชคดีของลูกทัวร์ที่ไกด์มีสติดีมาก..ขอบคุณคุณเพชรดาที่แบ่งปันเรื่องราว..เห็นว่าน่าสนใจ จึงนำมาแบ่งปันกันอ่าน
วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ประเด็นประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
งาช้างที่อนุญาตให้ทำการค้าเป็นงาของช้างบ้านที่ถูกต้องตามกฎหมายและเพื่อ
การใช้สอยภายในประเทศเท่านั้น
การค้าต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ประเทศไทยไม่อนุญาตให้นำเข้าและส่งออกงาช้างทุกชนิดในทุกกรณี รวมถึงการใช้สอยส่วนตัว หรือเป็นของที่ระลึก ดังนั้น อย่าซื้องาช้างและผลิตภัณฑ์จากงาช้าง การนำงาช้างออกนอกประเทศไทยเป็นการกระทำผิดกฎหมายมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกิน 4 เท่าของราคาสินค้ารวมอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกจับกุมดำเนินคดีในประเทศปลายทางอีกด้วย
ประเทศไทยไม่อนุญาตให้นำเข้าและส่งออกงาช้างทุกชนิดในทุกกรณี รวมถึงการใช้สอยส่วนตัว หรือเป็นของที่ระลึก ดังนั้น อย่าซื้องาช้างและผลิตภัณฑ์จากงาช้าง การนำงาช้างออกนอกประเทศไทยเป็นการกระทำผิดกฎหมายมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกิน 4 เท่าของราคาสินค้ารวมอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกจับกุมดำเนินคดีในประเทศปลายทางอีกด้วย
สอบถาม/แจ้งการค้างาช้างผิดกฎหมาย ติดต่อ
สายด่วน. 1362
Email: citesthailand@yahoo.com
Facebook: Control of Internal Trade in Ivory
Don’t buy ivory
Foreign travellers visiting Thailand should remain aware and not take any risks by buying any ivory products even if it is something as small as an earring or a bracelet or claimed to have been legally registered.
Measures are being taken in all of Thailand’s destinations to tackle illegal ivory trade in the domestic and international wildlife market. The move is in line with the Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora (CITES) to eradicate the international ivory trade.
Thai Ivories and Elephant Legislations
1: Ivory from domesticated elephants can be legally traded, but allowed only for domestic consumption under trade control.
2: Thailand prohibits import and export of ivory even if it is for personal consumption or as souvenir, and tourists are strongly advised not to buy ivory or ivory products. Taking ivory or ivory products outside Thailand is illegal. Offenders could get a jail term of up to 10 years or a fine of up to four times the value of the item or both penalties, and could face arrest at their country of origin.
Thailand submitted the revised ‘National Ivory Action Plan’ last month in accordance with the agreement made at the 65th Meeting of the CITES Standing Committee in July this year. Under the agreement, Thailand must adjust and enforce laws that would more effectively regulate the domestic ivory trade, possession and issuance of trade licenses as well as clamp down on the illegal ivory market.
For more information or to report on illegal ivory trade, contact:
Hotline 1362
Email: citesthailand@yahoo.com
Facebook: Control of Internal Trade in Ivory
สายด่วน. 1362
Email: citesthailand@yahoo.com
Facebook: Control of Internal Trade in Ivory
Don’t buy ivory
Foreign travellers visiting Thailand should remain aware and not take any risks by buying any ivory products even if it is something as small as an earring or a bracelet or claimed to have been legally registered.
Measures are being taken in all of Thailand’s destinations to tackle illegal ivory trade in the domestic and international wildlife market. The move is in line with the Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora (CITES) to eradicate the international ivory trade.
Thai Ivories and Elephant Legislations
1: Ivory from domesticated elephants can be legally traded, but allowed only for domestic consumption under trade control.
2: Thailand prohibits import and export of ivory even if it is for personal consumption or as souvenir, and tourists are strongly advised not to buy ivory or ivory products. Taking ivory or ivory products outside Thailand is illegal. Offenders could get a jail term of up to 10 years or a fine of up to four times the value of the item or both penalties, and could face arrest at their country of origin.
Thailand submitted the revised ‘National Ivory Action Plan’ last month in accordance with the agreement made at the 65th Meeting of the CITES Standing Committee in July this year. Under the agreement, Thailand must adjust and enforce laws that would more effectively regulate the domestic ivory trade, possession and issuance of trade licenses as well as clamp down on the illegal ivory market.
For more information or to report on illegal ivory trade, contact:
Hotline 1362
Email: citesthailand@yahoo.com
Facebook: Control of Internal Trade in Ivory
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)