สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย
..154 ชั้น 1 อาคารสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (กรมการท่องเที่ยว) ถ.พระราม1 แขวง วังใหม่ เขต ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330....โทรศัพท์ : 02-219-2721-2..โทรสาร : 02-219-2723....E-mail: pga_pr@hotmail.com

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เรื่องดีดีที่ต้องแบ่งปันกัน

วันนี้ทีม พีอาร์ มีเรื่องมาแบ่งปัน เรื่องจริงไม่อิงนิยาย ใครไปเที่ยวทางรถไฟ...มาอ่านตรงนี้สักนิด ประสพการณ์ตรงจากการบอกเล่าของไกด์ภาษาเยอรมัน ประสบการณ์จริง เป็นอุทาหรณ์ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 57 คุณเพชรดา ศรชัยไพศาล ไกด์ภาษาเยอรมัน ทำทัวร์เส้นทางรถไฟสายมรณะ ขณะที่ นั่งรถไฟจากสถานีน้ำตกเพื่อมาสถานีถ้ำกระแส นั่งอยู่โบกี้ท้ายสุด ลูกทัวร์ในโบกี้นี้ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวฮอลแลนด์ ลูกทัวร์ของเธอ เป็นครอบครัวชาวสวิส พ่อ แม่และลูกทั้ง3 ลูกชายคน คนโตอายุ18 ปี คนรองอายุ 16ปี ลูกสาวคนเล็ก14ปี รถไฟออกจากสถานีน้ำตก เวลา 15.30น. ขณะรถออกจากสถานีได้ประมาณ15นาที เป็นช่วงที่ลูกทัวร์ทุกรุ่นอายุตื่นเต้นสนุกสนานกับการถ่ายรูป ถัดจากเบาะที่เธอนั่ง มีครอบครัวชาวดัชนั่งอยู่ สามี ภรรยา และ ลูกอีก3คน สักครู่สามีชาวดัชออกไปยืนอยู่ช่วงต่อโบกี้ รถไฟออกจากสถานีน้ำตก ช่วงนั้นทางลาดลงเขา ประกอบกับช่วงรถต่อของรางที่ไม่ชิดสนิดกัน จึงเกิดการกระชากฉึกฉักๆ ..สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น.... เขาได้ตกรถไฟ..... ความเร็วของรถและการกระชากของรถไฟ ร่างของเขาถูกดูดเข้าไปในรางรถไฟ ช่วงเวลานั้นภรรยา กรีดร้องสุดชีวิต ตา มด้วยเสียงของผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งโบกี้ร้องเพื่อให้เสียดังไปถึงการได้ยิน ของคนขับเพื่อให้รถไฟหยุด ...
ได้ผล...รถไฟหยุด... เพื่อนของผู้เสียชีวิตลงวิ่งกรูไปดู เสียงกรีดร้องของครอบครัวเพื่อนร่วมคณะดังสนั่นอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับเสียงร้องไห้ ช๊อคตกใจของคนร่วมโบกี้ หนึ่งในนั้นคือไกด์ท่านนี้ด้วย เธอหันมาที่ลูกทัวร์ของเธอ คุณพ่อมาร์ติน ซึ่งนั่งติดกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เห็นเหตุการณ์ประกอบกับความอึกทึกของการเต้นของหัวใจของหลายๆคน คุณพ่อมาร์ตินช๊อค..ตาค้างเห็นแต่ตาขาว..หัวใจหยุดเต้น เสียงลูกๆ "papa.." เธอกระโดดไปหาเขาทันที พร้อมภรรยาและลูกของเขา เทน้ำราดศรีษะ กระตุกเส้นผม ตบหน้า "มาร์ตินตื่นๆ"เธอตะโกนเรียกสุดชีวิต พร้อมทั้ง ปลดกระดุม รูดซิบกางกาง แคทธารีนา ลูกสาวคนเล็กช๊อค ตามด้วยลูกชายอีกสอง เธอกอดและตบไหล่แม่"mama..เธอห้ามร้องไห้ เธอและฉันเราต้องช่วยกัน"ปล่อยแม่ดูพ่อ ครอบครัวคนไทยนั่งข้างๆกันตกใจลุกเดิน เธอขอให้ช่วยด้วยอย่าเดินจากไปช่วยกันกอดลูกทัวร์เธอก่อน คุณตาคุณยายและครอบครัวนี้มาช่วยด้วยหัวใจโอบกอดลูกนกทั้งสามที่สั่น..
คุณพ่อหยุดหายใจไปหนึ่งนาทีก็ฟื้น..ช่วงที่เราโอบกอดแคทธารีนา ก็ตะโกนบอกคนไทยให้ช่วยเรียกไกด์มาโบกี้สุดท้าย..มาช่วยกัน น้องอิสระไกด์ฝรั่งเศส พี่พงษ์ไกด์เยอรมัน และน้องผู้หญิงไกด์อังกฤษ เราช่วยกันนวดปลอบโยนพร้อมโอบกอด..อาการดีขึ้น..แต่ทั้ง 4 คนอาการไม่ดี รถมูลนิธิมาถึงพอดี เธอบอกร้อยเวรที่พึ่งมาถึงขอนายทหาร4นายมาช่วยพยุงลูกทัวร์เพื่อเดินไปขึ้น รถ นายแรกเดินเพื่อให้เร็ว เธอมองไปพอดีตะโกนทันที(คุณทหารคนแรกหยุด..เธอช๊อคเพราะร่างนั้น เลี้ยวขวาใช้บูทย่ำหนามใช้มีดตัดทาง ให้รถมูลนิธิหาทางเข้ามา)ถึงรถ..รถมูลนิธิ..ขนขึ้นทั้งหมด 5+1+2 เสียงหวอดขอทาง...เป็นเสียงเร้าและกระตุ้นการจากของชีวิตมาก 15 นาทีถึงโรงพยาบาลโทรโยค เข้าห้องฉุกเฉิน..ทุกอย่างทุกคนปกติ..อาเล็กซานเดอร์ลูกชายคนกลางตกใจคลั่ง เล็กน้อยใช้กำปั้นชกเสา สักพักมือบวมตรวจทำแผลจัดยา คุณหมอกลับจากการชันสูตรศพ ..มาพร้อมกับการสรุป ศพ..ขาด3จุด คือ คอ/ท้อง/ขา..พยาบาลถามและอุทานออกมาว่า "จะสิบศพแล้วนะและศพเมื่อวานคือศพที่10ในรอบปีนี้".(ตรงนี้เป็นบทสนทนาของ พยาบาลนะคะ ผู้เล่า ไม่ได้เห็นข้อเท็จจริงในเรื่องของจำนวนเอง)
90นาทีอยู่โรงพยาบาล.เข้าโรงแรม20.00น.
โชคดีของลูกทัวร์ที่ไกด์มีสติดีมาก..ขอบคุณคุณเพชรดาที่แบ่งปันเรื่องราว..เห็นว่าน่าสนใจ จึงนำมาแบ่งปันกันอ่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Once in a Lifetime